• |
  • |

โตโยต้ากาซูไทยแลนด์”ทำได้ แชมป์โลกสามสมัยติดที่ นูเบิร์กริง

  • 01-06-2022 11:11
  • JOE Dintararat

โตโยต้ากาซูไทยแลนด์”ทำได้ แชมป์โลกสามสมัยติดที่ นูเบิร์กริง

 

           โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ สร้างประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ให้วงการมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้งด้วยการ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 เป็นปีที่ 3 ทำสถิติใหม่ ในการแข่งขัน เอนดูร้าน รายการ "เอดีเอซี โททาลเอนเนอร์จี 24 ชั่วโมง นูเบิร์กริง" ประเทศเยอรมัน ในการแข่งขันที่ออกสตาร์ทเมื่อค่ำวันเสาร์ที่  28 พฤษภาคม ก่อนจะขับกันยาวนาน 24 ชั่วโมง เข้าเส้นชัย เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ตามเวลาไทย 

 

 

           การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบ เอนดูร้านซ์ หรือขับแบบต่อเนื่อง รายการยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ที่คนไทยร่วมแข่งขันคือรายการ “เอดีเอซี 24 ชั่วโมง นูเบิร์กริง” ซึ่งปีนี้เป็นการแข่งขันขันครั้งที่ 50 ท่ามกลางความสนใจของโลกที่รายการนี้กลับมาแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังต้องแข่งแบบ จำกัดคนดูมาตลอดเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรค โควิด -19

 

           รายการดังกล่าว มีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกหลายบริษัท เข้าร่วม เพื่อนำรถที่ผลิตและพัฒนา เข้าแข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งอันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะอันสุดยอดของรถยนต์แต่ละแบรนด์เช่นเดียวกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ตัดสินใจส่งรถยนต์ที่ผลิตในโรงานในประเทศไทย เข้าแข่งขันครั้งแรกเมื่อ 9ปีที่แล้ว เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลของรถยนต์ที่ใช้แข่งขันมาเป็นข้อมูลในการพัฒนารถยนต์เพื่อนำมาจำหน่ายต่อไป โดยทีมแข่งขันใช้ชื่อ โตโยต้า กาซู เรซซิ่งทีม เข้าร่วมแข่งขันด้วยรถยนต์ โตโยต้า อัลติส จำนวน 2 คัน ภายใต้การนำทีมของ นายสุทธิพงศ์ สมิตชาติ หรือ “อาร์โต้” กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีอาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด จัดทัพนักแข่งอาชีพของไทยที่มีฝีมือและประสบการณ์ลงแข่งขัน

 

 

           พิเศษของสนามดังกล่าวคือ เป็นสนามแข่งขันที่ ใช้เส้นทางธรรมชาติเป็นสนามแข่งขัน กล่าวคือในช่วงเวลาปกติ ถนนที่ใช้เป็นแทร็กแข่งขัน ก็จะเปิดให้สัญจรทั่วไป แต่เมื่อถึงช่วงฤดูแข่งขัน ก็จะนำเอาถนนเส้นดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนล้อมเทือกเขาไฮเฟลด์ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร มาเชื่อมต่อกับสนามแข่งขัน เดอร์ริง หรือสนามนูเบิร์กริง ที่มีระยะทางแข่งขันประมาณ 6 กิโลเมตร ดังนั้น นักแข่งจะต้องเจอกับสภาพถนนที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน พื้นแทร็กจึงไม่ได้เรียบสนิท โค้งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับรถที่มีความเร็วสูงระดับแข่งขัน จึงมีโอกาสที่จะหลุดโค้งได้ รวมถึงเส้นทางลงเขาที่ยาวกว่าสามกิโลเมตรทำให้รถมีความเร็วสะสมเกินกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ในรถบางรุ่น) จึงเป็นการยากที่จะเบรกหรือ หลบ หากระหว่างลงเขามาแล้วเผอิญเจอรถที่ขวางอยู่ อุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในระหว่างแข่งขันรายการนูเบิร์กริง เอนดูร้านซ์ดังกล่าว

 

 

           อย่างไรก็ตาม ตลอดการแข่งขันทั้ง 9 ปี ทีมแข่ง โตโยต้า กาซู เรซซิ่งทีม ไทยแลนด์ ได้พัฒนารถยนต์อย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงคุณภาพ, วางระบบการบริหารจัดการดูแลนักแข่งและทีมช่างที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง, รวมถึงการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด

 

 

           การแข่งขันล่าสุด ทีมแข่ง โตโยต้า กาซู เรซซิ่งทีม ไทยแลนด์ ส่งรถโตโยต้า อัลติส สองคันเข้าแข่งขันเช่นเดิมโดยมีศักดิ์ศรีแชมป์เก่าสองสมัยพกติดตัวไปด้วย โจทย์ทำคัญคือการพยายามป้องกันแชมป์ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ทีมไทยสามารถทำสถิติใหม่เป็นแชมป์ 3 สมัยเป็นครั้งแรก

 

 

สำหรับรถหมายเลข 119 นำโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, มานัต กุละปาลานนท์ 

ส่วนรถหมายเลข 120 ประกอบไปด้วย กรัณฑ์ ศุภพงษ์, นาโอกิ คาวามูระ, เฉิน เจี้ยน หงส์ 

 

 

           หลังทำการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงปรากฏว่า โตโยต้า อัลติส หมายเลข 120 สามารถคว้าชัยชนะเอาไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการทำจำนวนรอบมากที่สุดในรุ่นนี้ที่ 118 รอบ เวลาที่ดีที่สุดต่อรอบอยู่ที่ 10 นาที 06.794 นาที มีการเข้าพิททั้งสิ้นจำนวน 14 ครั้ง โดยจบเป็นอันดับ 80 ของรถทั้งหมดในสนามแข่ง ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่สวยงามอีกครั้ง เป็นแชมป์ครั้งที่ 3 ติดต่อกันที่สามารถทำได้และเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน

 

 

           ส่วนรถหมายเลข 119 ก็ตามเข้ามาเป็นรองแชมป์ ด้วยการทำจำนวนแข่งขันทั้งสิ้น 115 รอบ โดยรอบที่ทำเวลาดีที่สุดอยู่ที่ 10 นาที 07.451 วินาที มีการเข้าพิททั้งสิ้น 21 ครั้ง โดยจบเป็นอับดับ 83 ของรถทั้งหมดที่เข้าแข่งขัน ซึ่งในรุ่น sp 3 นี้มีรถเข้าแข่งขันทั้งสิ้นสำนวน 5 คัน

 

อัพเดตล่าสุด